xs
xsm
sm
md
lg

“ระเบิดเทียนจิน” กระทบ ศก.วงกว้าง คาด “ซัปพลาย” ชะงักงันนานเป็นเดือน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สภาพพินาศย่อยยับจากเหตุโกดังสินค้าเก็บสารเคมีอันตรายระเบิดในเทศบาลนครเทียนจิน
เอเอฟพี - คาดผลกระทบทางเศรษฐกิจจากเหตุระเบิดโกดังเก็บสารอันตรายในเมืองเทียนจิน (เทียนสิน) ทางภาคเหนือของจีน จะครอบคลุมกว้างขวางและยืดเยื้อไปอีกนานหลายเดือน ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากสภาพยับเยินของพื้นที่ผืนใหญ่ภายในเขตท่าเรือและนิคมอุตสาหกรรมซึ่งมีกิจกรรมคึกคักติดระดับโลก, ค่าเสียหายนับพันล้านดอลลาร์ที่เกิดขึ้นมา และการที่บรรษัทข้ามชาติหลายแห่งยังไม่สามารถเข้าไปประเมินสถานการณ์ในโรงงานของตนได้

เหตุระเบิดรุนแรงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่มีผู้เสียชีวิต 114 ราย สร้างความกังวลเกี่ยวกับมลพิษจากสารพิษในอากาศและน้ำ แม้ทางการยืนยันว่า น้ำและอากาศในเทียนจินปลอดภัยเป็นปกติก็ตาม

นอกจากนั้น เหตุการณ์ดังกล่าวยังสร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้างขวางในเขตท่าเรือของเทียนจิน ซึ่งเป็นปากประตูสำคัญมากแห่งหนึ่งในการเข้าออกประเทศจีน ซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่มหึมาเป็นอันดับ 2 ของโลก

หนึ่งในภาพที่สะท้อนหายนะครั้งนี้ชัดเจนที่สุด คือ ภาพรถนำเข้าจำนวนนับไม่ถ้วนที่จอดเรียงแถวกันในสภาพถูกเผาจนกรอบ แล้วยังมีรถยนต์ใหม่ราว 10,000 คัน ใกล้ ๆ ที่เกิดเหตุซึ่งมีรายงานว่าได้รับเสียหายหนักเช่นเดียวกัน

ใน “ฟอร์จูน 500” ซึ่งก็คือบริษัทใหญ่ที่สุดในโลก 500 แห่งจากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์จูนของอเมริกา มีถึงราว 150 แห่งทีเดียว ซึ่งมีธุรกิจอยู่ในเทียนจิน และท่าเรือของเมืองนี้ก็ติดอันดับ 1 ใน 10 ของท่าเรือที่มีกิจกรรมคึกคักวุ่นวายที่สุดในโลก
ประชาชนรวมตัวกันไว้อาลัยแก่เหยื่อเหตุระเบิดที่โกดังเก็บสารอันตรายในเมืองเทียนจิน (เทียนสิน) ทางภาคเหนือของจีน
เทียนจินมีประชากร 15 ล้านคน หรือเกือบสองเท่าตัวของลอนดอน และมีเศรษฐกิจเกือบเท่ากับเศรษฐกิจสาธารณรัฐเช็ก

บริษัทวิจัย แคปิตอล อิโคโนมิกส์ ระบุในบันทึกถึงลูกค้าว่า แม้ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์เต็ม แต่กิจกรรมเศรษฐกิจในเทียนจินยังไม่ฟื้นสู่ภาวะปกติ เพราะถึงแม้ในส่วนของท่าเรือนั้น การดำเนินการส่วนใหญ่ไม่มีปัญหา แต่ในส่วนที่เป็นโกดังและส่วนการผลิตทางอุตสาหกรรม กลับอยู่ในสภาพเสียหายอย่างรุนแรง และการหยุดชะงักเช่นนี้อาจส่งผลลุกลามต่อสายโซ่อุปทานโดยรวม

บริษัทใหญ่ที่สุดของโลกบางแห่ง ซึ่งมีการดำเนินงานรอยู่ในบริเวณที่ได้รับผลกระทบจากการระเบิด อาทิ โตโยต้า ค่ายรถยักษ์ใหญ่ของโลก ยังไม่สามารถเดินเครื่องผลิตได้ และมีพนักงาน 50 คนจาก 12,000 คนในโรงงานที่เทียนจิน ได้รับบาดเจ็บ

แกล็กโซสมิธไคลน์ ยักษ์ใหญ่ด้านเวชภัณฑ์ ก็มีโรงงานอยู่ในบริเวณที่ระเบิดเช่นเดียวกัน โดยโฆษกหญิงของบริษัทเผยว่า บริษัทยังไม่สามารถเข้าไปประเมินความเสียหายได้

แอร์บัส ผู้ผลิตเครื่องบินจากยุโรป ซึ่งมีโรงงานประกอบขนาดใหญ่ในเทียนจิน และเป็นโรงงานแห่งเดียวซึ่งอยู่ทางเอเชียด้วย ระบุว่า พนักงานปลอดภัยดี แต่ต้องอพยพออกจากตัวเมืองเทียนจินเพื่อความปลอดภัย และบริษัทกำลังประเมินสถานการณ์ด้านโลจิสติกส์

โคคา-โคล่า บริษัทน้ำดำยักษ์ใหญ่ และฮอนด้า ค่ายรถชั้นนำเมืองปลาดิบ กำลังประเมินผลกระทบจากระเบิดเช่นเดียวกัน
ประชาชนรวมตัวกันไว้อาลัยแก่เหยื่อเหตุระเบิดที่โกดังเก็บสารอันตรายในเมืองเทียนจิน (เทียนสิน) ทางภาคเหนือของจีน
จากข้อมูลการจัดอันดับท่าเรือทั่วโลกประจำปี 2013 ซึ่งเป็นข้อมูลล่าสุดบนเว็บไซต์ของสมาคมการท่าเรือแห่งอเมริกา เทียนจินติดอันดับ 3 ในแง่ปริมาณสินค้า (477 ล้านตัน) และอันดับ 10 ในแง่ปริมาณการขนถ่ายตู้สินค้า (เกือบ 13 ล้าน TEU โดยที่ 1 TEU เท่ากับ ตู้สินค้าขนาดกว้าง 20 ฟุต)

ทางด้านท่าเรือเทียนจินแถลงว่า การดำเนินงานกลับสู่ภาวะปกติแล้ว ยกเว้นส่วนที่อยู่ภายในหรือรอบ ๆ พื้นที่เกิดเหตุ ซึ่งครอบคลุมโรงงานจำนวนมาก

ขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์เหรินหมินรึเป้า กระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน รายงานว่า ความสูญเสียเฉพาะในภาคยานยนต์อย่างเดียวน่าจะสูงถึง 310 ล้านดอลลาร์ ขณะที่บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ “ฟิตช์ เรตติ้ง” เตือนว่า การเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัยสืบเนื่องจากเหตุระเบิดคราวนี้อาจมีมูลค่าถึง 1,500 ล้านดอลลาร์

ด้านนักวิเคราะห์มองว่า ผลกระทบระยะยาวจะมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่ที่ว่าการดำเนินงานต้องหยุดชะงักนานเพียงใด โดย โนมูระ วาณิชธนกิจจากญี่ปุ่นระบุว่า แม้ไม่คาดว่า เหตุการณ์นี้จะส่งผลร้ายแรงต่อเศรษฐกิจ แต่ประเด็นสำคัญคือ เศรษฐกิจจะได้รับผลกระทบอย่างยืนยาวหรือเพียงชั่วคราว

บริษัทวิจัย ไอเอชเอส ชี้ว่า ภาคเหนือของจีนจะเผชิญการขาดแคลนฉับพลันในซัปพลายสารเคมีและพลาสติก เป็นเวลานานหนึ่งเดือน

เซี่ย เหลียง ยิป ผู้ช่วยศาสตราจารย์อินเตอร์เนชันแนล เซนเตอร์ ฟอร์ มาริไทม์ สตัดดีส์ มหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคฮ่องกง มองว่า ท่าเรือเทียนจินรับผิดชอบอาณาบริเวณที่ครอบคลุมถึงปักกิ่ง และรอบ ๆ จึงถือว่า มีความสำคัญอย่างมาก


กำลังโหลดความคิดเห็น