เอเจนซีส์ - นายกรัฐมนตรีกรีซ ยอมสละรัฐมนตรีคลังฝีปากกล้าเมื่อวันจันทร์ (6 ก.ค.) โดยหวังว่าจะช่วยลดทอนความไม่พอใจของผู้นำยูโรโซนที่ขณะนี้ต้องตัดสินใจว่า จะยินยอมอ่อนข้อให้เอเธนส์หรือเตรียมตัวรับสถานการณ์ “เกร็กซิต” หลังจากในวันอาทิตย์ (5) ชาวกรีกลงมติท่วมท้นคว่ำข้อเสนอเงินสดแลกมาตรการรัดเข็มขัดของเจ้าหนี้ระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ทั้งเยอรมนีซึ่งเป็นถุงเงินของยุโรป และกลุ่มรัฐมนตรีคลังยูโรโซนต่างแสดงท่าทีแข็งกร้าวว่า อย่าหวังจะทำข้อตกลงฉบับใหม่ได้ในเร็ววัน รวมทั้งกรีซจะต้องยื่นข้อเสนอใหม่ให้พิจารณาระหว่างการหารือฉุกเฉินวันอังคาร (7) นี้
ยานิส วารูฟากิส รัฐมนตรีคลังกรีซที่ขยันสร้างความเดือดดาลให้เพื่อนชาติสมาชิกในยูโรโซน ด้วยสไตล์การเจรจาที่ไม่เดินไปตามกรอบตามแบบแผน ตลอดจนชอบเลคเชอร์ขู่ขวัญคนอื่นๆ รวมทั้งรณรงค์เรียกร้องให้ประชาชนชาวกรีกโหวต “โน” ในการลงประชามติวันอาทิตย์ (5) โดยกล่าวหาว่าพวกเจ้าหนี้ของกรีซเป็น “ผู้ก่อการร้าย” ได้ประกาศในวันจันทร์ (6) ลาออกจากตำแหน่งในทันที ตามคำขอของนายกรัฐมนตรีซีปราส
การเสียสละของวารูฟากิส ทั้งๆ ที่ได้ให้สัญญาต่อชาวกรีกว่าเขาจะต่อรองเจรจาจนกระทั่งได้ข้อตกลงฉบับที่ดีขึ้นกว่าเดิม ภายในเวลาไม่กี่วันหลังจากการลงประชามติออกมาในทางที่เขาเรียกร้องอย่างท่วมท้น บ่งชี้ให้เห็นว่านายกรัฐมนตรีซีปราสมีความมุ่งมั่นที่จะพยายามบรรลุการประนีประนอมในนาทีสุดท้ายกับพวกผู้นำยุโรป
วารูฟากิสพ้นจากตำแหน่ง 1 วันหลังจากที่ผู้ออกเสียงชาวกรีก61.31% โหวตไม่ยอมรับข้อเสนอของฝ่ายเจ้าหนี้ ขณะที่ผู้ลงคะแนนยอมรับมีเพียง 38.69% โดยที่มีผู้ใช้สิทธิจำนวน 62.5% และทำให้เกิดกระแสความหวั่นกลัวเพิ่มสูงขึ้นมากว่า กรีซคงไม่แคล้วต้องออกไปจากยูโรโซน หรือที่นิยมเรียกขานกันว่า “เกร็กซิต” (Grexit)
การโหวตคัดค้านข้อเสนอเงินกู้ของเจ้าหนี้ของกรีซทำให้สถานการณ์ในยุโรปเต็มไปด้วยความตึงเครียด นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลของเยอรมนี นัดหารือกับประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ของฝรั่งเศสที่ปารีสในวันจันทร์(6) ก่อนหน้าจะเข้าร่วมการประชุมซัมมิตฉุกเฉินของผู้นำยูโรโซนในวันอังคาร (7) ขณะที่ทางรัฐมนตรีคลังยูโรโซน (ยูโรกรุ๊ป) ก็มีกำหนดหารือฉุกเฉินในวันอังคาร รวมทั้งธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประชุมด่วนเช่นกันเพื่อหารือเรื่องคำขอเพิ่มเพดานสภาพคล่องฉุกเฉินของกรีซ
ในสถานการณ์ปัจจุบันที่เอเธนส์การประกาศใช้มาตรการควบคุมเงินทุน ให้ธนาคารต่างๆ ระงับการให้บริการ 1 สัปดาห์ และจำกัดการถอนเงินสดจากตู้เอทีเอ็ม กรีซจึงต้องการเงินสดฉุกเฉินโดยเร่งด่วนจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจเป็นอัมพาต ไม่เช่นนั้น เอเธนส์อาจถูกบีบให้ออกหนังสือสัญญารับสภาพหนี้หรือกลับไปใช้เงินสกุลแดร็กมา ซึ่งเท่ากับเป็นการอำลายูโรโซน โดยปริยาย
การลาออกของวารูฟากิสกระตุ้นความหวังขึ้นมาบ้างว่า บรรดาเจ้าหนี้ที่ประกอบด้วยอีซีบี คณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของอียู และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) อาจยอมกลับสู่โต๊ะเจรจา
มิเชล ซาแปง รัฐมนตรีคลังฝรั่งเศสแสดงความเห็นว่า ขณะนี้ ขึ้นอยู่กับเอเธนส์ว่า จะยื่นข้อเสนอใหม่หรือไม่ และย้ำว่า การลงประชามติไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาใดๆ
สอดคล้องกับคำแถลงยูโรกรุ๊ปเมื่อวันจันทร์ที่แสดงความหวังว่า รัฐบาลกรีซจะมีข้อเสนอใหม่มาให้พิจารณาในการหารือฉุกเฉินวันอังคาร
กระนั้น เจ้าหน้าที่อียูเปิดเผยว่า ขณะนี้ เป็นการยากที่จะผ่อนปรนเงื่อนไขการปฏิรูปให้เอเธนส์ โดยอ้างอิงข้อเท็จจริงที่ว่า กรีซกลับสู่ภาวะถดถอยอีกครั้งหลังจากพรรคฝ่ายซ้ายไซริซาของซีปราสชนะการเลือกตั้งเมื่อเดือนมกราคม ส่งผลให้สถานะการคลังของกรีซย่ำแย่กว่าตอนที่ทุกฝ่ายพยายามหารือเพื่อร่างข้อเสนอเงินกู้ที่ถูกรัฐบาลชุดนี้ปฏิเสธเสียอีก
ทั้งนี้บรรดาผู้นำยุโรปต่างแสดงความผิดหวังกับผลการลงประชามติของกรีซ อาทิ เจอโรน ดิจเซลโบลม ประธานยูโรกรุ๊ปที่บอกว่า การโหวตโนเป็นสิ่งที่น่าเสียใจอย่างยิ่งสำหรับอนาคตของกรีซ
ในเวลาต่อมาของวันจันทร์ สเตฟเฟน ไซแบร์ต โฆษกของนายกรัฐมนตรีแมร์เคิลแห่งเยอรมนี ยังได้ออกมาสาดน้ำเย็นใส่ความหวังที่จะได้เห็นการประนีประนอม โดยเขาระบุว่า การออกจากตำแหน่งของวารูฟากิส ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเลย
“มันไม่ได้เกี่ยวกับตัวบุคคล หากแต่เป็นเรื่องของจุดยืนมากกว่า” ไซแบร์ต กล่าวพร้อมกับเสริมว่า ในปัจจุบัน “ยังไม่มีพื้นฐานใดๆ ที่จะให้มาทำการเจรจากันเพื่อให้ได้ข้อตกลงช่วยเหลือฉบับใหม่”
“มันขึ้นอยู่กับกรีซมากกว่า” ว่ายังต้องการที่จะอยู่ในยูโรโซนต่อไปหรือไม่ โฆษกผู้นี้บอก “เรากำลังเฝ้ารอที่จะได้เห็นว่ารัฐบาลกรีซจะยื่นข้อเสนออะไรให้แก่หุ้นส่วนชาวยุโรปของตนบ้าง