เอเจนซีส์ - องค์การอนามัยโลก (ฮู) เตือน สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคอีโบลาในแอฟริกาตะวันตกยังคงวิกฤตหนัก โดยเฉพาะที่ไลบีเรียซึ่งคาดว่าจะพบผู้ติดเชื้อพุ่งพรวดขึ้นมาหลายพันคนภายในระยะเวลา 3 สัปดาห์ข้างหน้า พร้อมระบุว่าทั่วโลกต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการใช้ความพยายามมากขึ้นอีก 3-4 เท่าตัวในการจัดการกับไวรัสร้ายนี้ ในอีกด้านหนึ่ง ซาอุดีอาระเบียซึ่งได้ประกาศงดออกวีซ่าให้ผู้แสวงบุญจากเซียร์ราลีโอน ไลบีเรีย และกินี ไปแล้ว ได้แถลงอ้าแขนรับชาวมุสลิมไนจีเรียเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ เนื่องจากการระบาดของอีโบลาที่ประเทศนั้นยังไม่น่ากังวล
เชื้อไวรัสอีโบลา ซึ่งยังไม่มีวัคซีนป้องกันหรือยาบำบัดรักษาใดๆ เลยที่ผ่านการทดสอบยืนยันผลแล้ว กำลังระบาดหนักที่สุดนับตั้งแต่ที่มีการตรวจพบโรคนี้ในปี 1976 โดยได้คร่าชีวิตประชาชนราว 2,100 คนไปแล้วใน กินี เซียร์ราลีโอน ไลบีเรีย และไนจีเรีย และยังกำลังลุกลามไปในเซเนกัล
ฮู เชื่อว่า ต้องใช้เวลา 6-9 เดือนจึงจะสามารถควบคุมการระบาดของโรคร้ายแรงนี้ และถึงที่สุดแล้วอาจมีผู้ติดเชื้อในระดับ 20,000 คน
เฉพาะที่ไลบีเรีย ประเทศที่มีการระบาดของอีโบลารุนแรงที่สุดนั้น มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 1,089 คน โดยกว่าครึ่งหนึ่งสิ้นชีพไปนับตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา
ในวันจันทร์ (8 ก.ย.) ฮูออกคำแถลงระบุว่า สถานการณ์การระบาดของอีโบลาในไลบีเรียเวลานี้อยู่ในสภาพตึงมืออยู่แล้ว และกำลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ๆ เพิ่มขึ้นแบบพรวดพราด จนเกินกว่าศักยภาพในการจัดการรับมือของเหล่าศูนย์รักษาโรคนี้ที่มีอยู่
คำแถลงขององค์การอนามัยโลกแจกแจงว่า ในจำนวนเทศมณฑล (เคาน์ตี) 15 แห่งของไลบีเรียนั้น มีถึง 14 แห่งซึ่งพบผู้ป่วยที่ยืนยันแล้วว่าติดเชื้อ และทันทีที่ศูนย์รักษาแห่งใหม่เปิดให้บริการ ผู้ป่วยจะหลั่งไหลไปรับการรักษาจนล้น
“ในกรุงมันโรเวีย ครอบครัวที่มีสมาชิกเจ็บป่วยโดยคิดว่าติดเชื้อไวรัสอีโบลา พากันขึ้นนั่งจนอัดแน่นเต็มรถแท็กซี่ เที่ยวขับตระเวนไปทั่วเมือง เพื่อหาเตียงรักษาพยาบาลที่ยังว่างอยู่ ทว่าไม่พบเลยแม้สักเตียงเดียว” ฮูระบุ
คำแถลงขององค์การอนามัยโลกบรรยายต่อไปว่า เมื่อพวกคนไข้โรคอีโบลาถูกปฏิเสธจากศูนย์บำบัดรักษา “พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเดินทางกลับไปยังชุมชนของพวกเขากลับไปยังบ้านเรือนของพวกเขา ที่ซึ่งพวกเขาจะแพร่เชือให้แก่คนอื่นๆ อย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ ทำให้จำนวนผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด”
ขณะเดียวกัน ฮูก็ชี้ว่า ทั้งมอเตอร์ไซค์รับจ้าง และรถแท็กซี่ ต่างกลายเป็นแหล่งแพร่เชื้ออีโบลาที่สำคัญไปแล้ว
ฮูประเมินว่า เฉพาะในเทศมณฑลมอนต์เซอร์ราโดเคาน์ตี ซึ่งครอบคลมเมืองหลวงมันโรเวีย และมีประชากรกว่า 1 ล้านคนนั้น กำลังต้องการเตียงผู้ป่วย 1,000 เตียงโดยด่วน
คำแถลงชี้ว่า จะต้องเดินหน้าเรียกร้องเพื่อให้มีการจัดหาเตียงคนไข้อีโบลาเพิ่มเติม ให้แก่ไลบีเรียและประเทศที่มีการระบาดหนักรายอื่นๆ รวมทั้งกระตุ้นให้ทั่วโลกร่วมรับมือภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขนี้ ซึ่งสร้างความทุกข์ทรมานให้แก่มนุษยชาติในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
องค์การอนามัยโลกสำทับว่า รัฐบาลและองค์กรต่างๆ ทั่วโลกต้องเพิ่มความพยายามอีก 3-4 เท่าตัวในการเร่งรวบรวมเงินและทรัพยากรเพื่อช่วยเหลือแอฟริกาตะวันตก
อีโบลาเป็นโรคที่ทำให้ผู้ป่วยมีไข้สูง อาเจียน และมีเลือดออกตามร่างกาย โดยที่แพร่เชื้อผ่านการสัมผัสกับพวก เลือด เหงื่อ และอาเจียนของผู้ติดเชื้อ ทำให้ผู้ที่ปฏิบัติงานซึ่งสัมผัสกับร่างกายผู้ป่วยโดยตรง มีความเสี่ยงติดเชื้อมากที่สุด
ตามคำแถลงของฮู แพทย์คนหนึ่งที่ทำงานในศูนย์รักษาอีโบลาในเซียร์ราลีโอน เพิ่งติดเชื้อนี้ นับเป็นเจ้าหน้าที่ฮูคนที่ 2 ที่ติดเชื้ออีโบลา หลังจากนักระบาดวิทยาชาวเซเนกัลเมื่อเดือนที่แล้ว
ทั้งนี้ ในไลบีเรีย ประเทศที่มีแพทย์ 1 คนต่อประชากรเกือบ 100,000 คนก่อนที่อีโบลาจะระบาดนั้น ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ทางด้านการแพทย์ 152 คน ที่ติดเชื้อนี้ และ 79 คนเสียชีวิต
ทางด้าน บัน คีมุน เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ ได้เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอนของอังกฤษ ประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ของฝรั่งเศส ประธานาธิบดีราอูล คาสโตรแห่งคิวบา และเฮอร์มาน ฟาน รอมปุย ประธานคณะมนตรียุโรป ระดมการสนับสนุนเพื่อต่อสู้กับการระบาดของอีโบลา
การเรียกร้องดังกล่าวยังได้รับการขานรับจากประธานบริหารบริษัทชั้นนำ 11 แห่งที่ดำเนินงานอยู่ในแอฟริกาตะวันตก เป็นต้นว่า อาร์เซเลอร์มิตตัล และแรนด์โกลด์ รีซอร์ส ที่ออกคำแถลงกระตุ้นให้ผู้นำโลกดำเนินมาตรการเพื่อต่อสู้กับอีโบลาที่กำลังคุกคามเสถียรภาพของภูมิภาค
ส่วนที่กรุงวอชิงตัน สหรัฐฯ ประกาศเมื่อวันจันทร์ว่า จะส่งโรงพยาบาลภาคสนามขนาด 25 เตียงไปยังไลบีเรียเพื่อรักษาเจ้าหน้าที่แพทย์พยาบาล และก่อนหน้านั้นอังกฤษเผยว่า จะส่งผู้เชี่ยวชาญทางการทหารและมนุษยธรรมไปจัดตั้งศูนย์รักษาอีโบลาขนาด 62 เตียงในเซียร์ราลีโอนภายใน 8 สัปดาห์ โดย 12 เตียงจะจัดไว้สำหรับอาสาสมัครแพทย์และพยาบาลทั้งที่เป็นคนท้องถิ่นและต่างชาติ
วันเดียวกัน รัฐมนตรีสาธารณสุขของสหภาพแอฟริกา (เอยู) ที่มีสมาชิก 54 ประเทศ ได้ร่วมประชุมฉุกเฉินที่กรุงแอดดิสอาบาบา เมืองหลวงของเอธิโอเปีย โดยที่ประชุมเห็นพ้องให้ยกเลิกการห้ามและการจำกัดการเดินทางไปยังและจากประเทศที่อีโบลาระบาด แต่ย้ำว่า ทุกประเทศต้องมีมาตรการคัดกรองที่เหมาะสม