กลุ่ม นร.หัวรุนแรงปากีฯ ยอมจำนนหลังทหารขีดเส้นตายวางอาวุธ

เอเอฟพี – เจ้าหน้าที่ปากีสถาน ระบุ กลุ่มนักเรียนมุสลิมหัวรุนแรงซึ่งลุกขึ้นมาต่อต้านผู้นำปากีสถาน ยอมจำนนต่อทางการแล้วบางส่วน หลังทหารได้เคลื่อนรถถังและวางกำลังโอบล้อมมัสยิดแดงใจกลางกรุงอิสลามาบัด พร้อมขีดเส้นตายว่าจะใช้กำลังบุกเข้าโจมตี ขณะที่เหตุปะทะวานนี้ (3) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 16 ราย

อันวาร์ เมห์มูด เลขานุการด้านข้อมูลข่าวสารของปากีสถาน กล่าวว่า นักเรียนมุสลิมหัวรุนแรงกว่า 700 คน ได้ยอมจำนนต่อทางการ โดยได้ทยอยเดินออกมาจากมัสยิดดังกล่าว และคาดว่า จะมีนักเรียนยอมวางอาวุธเพิ่มขึ้น ขณะที่ ประธานาธิบดีเปอร์เวซ มูชาร์ราฟ ของปากีสถาน ประกาศว่า จะจ่ายเงิน 5,000 รูปี (2,873 บาท) ให้กับผู้ที่ยอมจำนน

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง ระบุว่า ยังคงมีนักเรียนมุสลิมหัวรุนแรงอย่างน้อยอีกกว่า 1,000 คน ที่หลบซ่อนตัวอยู่ในมัสยิดแดง ซึ่งประมาณครึ่งหนึ่งเป็นผู้หญิง และยังไม่มีทีท่าว่าจะยอมจำนนแต่อย่างใด

ทางการปากีสถานประกาศเส้นตายเมื่อเวลา 11.00 น.(13.00 น.ตามเวลาในไทย) ให้ผู้นำทางศาสนาของมัสยิดลัล มาสจิด หรือมัสยิดแดง ยอมวางอาวุธและมอบตัวกับทางการ ไม่เช่นนั้นจะใช้กำลังบุกเข้าโจมตี อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ขยายเวลาออกไปอีก 90 นาที ขณะที่บรรดาผู้นำของมัสยิด ซึ่งสนับสนุนอดีตรัฐบาลตอลิบานของอัฟกานิสถานพยายามปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว

ทั้งนี้ ทหารปากีสถานหลายร้อยนายยังคงตรึงกำลังตามคำประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่รอบมัสยิด และได้ยิงนักเรียนชาย รวมถึงชายคนหนึ่งที่ป่วยทางจิตเสียชีวิตเมื่อเช้าวันนี้ (4) นอกจากนี้ ยังได้สร้างแนวกระสอบทราย และนำรั้วลวดหนามมาปิดกั้นโดยรอบบริเวณ รวมถึงได้สั่งตัดไฟในพื้นที่ดังกล่าวเมื่อคืนที่ผ่านมา

ล่าสุดได้เกิดเหตุยิงปะทะกันรอบใหม่ขึ้น หลังเจ้าหน้าที่จากกองกำลังความมั่นคงได้ยิงก๊าซน้ำตาเข้าไปในมัสยิด เพื่อเร่งให้นักเรียนยอมจำนนและเข้ามอบตัวกับทางการ อย่างไรก็ตามยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม

กลุ่มนักเรียนมุสลิมหัวรุนแรงได้ยิงต่อสู้กับกองกำลังความมั่นคงของปากีสถานวานนี้ (3) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 16 ราย และบาดเจ็บกว่า 140 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการสูดดมก๊าซน้ำตา ซึ่งนับเป็นเหตุนองเลือดมากสุดในรอบ 6 เดือน หลังกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงในมัสยิดดังกล่าวลุกขึ้นมาต่อต้านประธานาธิบดีมูชาร์ราฟ ซึ่งรวมถึงการก่อเหตุลักพาตัวชาวจีน 7 คนเมื่อเดือนที่แล้ว

ขณะที่ผู้นำมัสยิดแดง ระบุว่า มีนักเรียนชายราว 5,000 คน และนักเรียนหญิงอีกราว 4,000 คน ที่เรียนอยู่ในมัสยิดดังกล่าว ทั้งหมดเป็นวัยรุ่นในช่วงต้นๆ จนถึงอายุประมาณ 20 กว่า และส่วนใหญ่มาจากเมืองทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถาน และภูมิภาคที่มีชนเผ่าต่างๆ อาศัยอยู่

รัฐบาลปากีสถาน กล่าวก่อนหน้านี้ ว่า กลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายอัลกออิดะห์อาจหลบซ่อนตัวอยู่ในมัสยิดแดงเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ ผู้นำมัสยิดแดงต้องการเรียกร้องให้ปากีสถานเปลี่ยนแปลงการปกครองไปเป็นรัฐอิสลามเหมือนอดีตรัฐบาลตอลิบานของอัฟกานิสถาน ก่อนที่จะถูกสหรัฐฯ โค่นอำนาจในปี 2001